การรอคอยแชมป์พรีเมียร์ลีกนั้นจบลงหลังเกมเมื่อคืนที่แมนเชลเตอร์ซิตี้แพ้ให้กับเชลซีไป 2-1 ซึ่งยืนยันในฐานะแชมป์เป็นของหงา์แดงแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว แม้แฟนๆจะถูกห้ามให้มีการรวมตัวกัน แต่แฟนๆหลายพันคนก็มารวมตัวกันที่สนามแอนฟิลด์เพื่อฉลองแชมป์กันโดยสวมหน้ากาก
คล็อพ สวมเสื้อลิเวอร์พูลและบอกว่า “ฉันไม่มีคำพูดมันไม่น่าเชื่อเลย การเป็นแชมป์ลีกนั้นมันยอดเยี่ยมมากๆและไม่น่าจะเป็นไปได้ ผมอยู่ที่นี่มา 3-4 ปีแต่โดยรวมแล้วมันคือความสำเร็จเราสนุกกับสิ่งนี้และผู้สนับสนุนเราก็ร่วมยินดีด้วยที่พวกเราทำได้
อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยมาตรการที่กำหนดไว้ของไวรัสแฟนๆหงษ์แดงอาจจะไม่ได้ฉลองความสำเร็จที่รอคอยมานานได้อย่างที่ตั้งใจไว้ซึ่งดูเหมือนว่าสิ่งต่างๆจะมีความเป็นไปได้ยากที่พวกเขาจะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณะตามปกติในลิเวอร์พูลเช่นขบวนรถเมล์เปิดรอบเมือง
อย่างไรก็ตามเนื่องจาก Kenny Dalglish นำพวกเขาไปสู่การแข่งขันชิงแชมป์ First Division พวกเขาต้องอดทนสามทศวรรษโดยไม่ประสบความสำเร็จในลีกซึ่งในช่วงเวลาที่บันทึกชื่อของพวกเขาถูกแซงหน้าคู่แข่งอย่าง Manchester United ในช่วงนี้เองที่อเล็กซ์เฟอร์กูสันบอสใหญ่แห่งสหราชอาณาจักรมีชื่อเสียงในเรื่องการ “ทำให้ลิเวอร์พูลพ่ายแพ้” The Reds เข้ามาใกล้ในช่วงเวลานั้นเพื่อฟื้นฟูตัวเองกลับมาสู่จุดสูงสุดโดยทำอันดับสองในพรีเมียร์ลีกสี่ครั้ง เจอราร์ดฮูลลิเออร์ (2001-02) และราฟาเอลเบนิเตซ (2008-09) ต่างพาทีมเข้ามาใกล้เส้นทางของความสำเร็จขึ้นเรื่อยๆ
2013-14 ฝ่ายของเบรนแดนร็อดเจอร์สดูราวกับว่าพวกเขาดูเหมือนว่าจะเป็นไปในทางที่ดี แต่ตกต่ำในช่วงปลายฤดูกาล และในที่สุดการเข้ามาของกุนซือชาวเยอรมัน เยือร์เกิน นอร์แบร์ท คล็อพ เป็นหัวใจสำคัญของลิเวอร์พูลถึงแม้ต้องใช้เวลาในการปรับทีมสักพักแต่ก็สามารถฟื้นฟูจนประสบผลสำเร็จได้อย่างที่เค้าต้องการ
การซื้อนักเตะที่ชาญฉลาดยังเป็นกุญแจสำคัญในการพาทีมไปสู่ความสำเร็จ Mohamed Salah,Sadio Mane และ Roberto Firmino ล้วนเป็นนักเตะที่น่าทึ่ง 211 ประตูที่ทำได้นั้นบ่งบอกถึงคุณภาพได้เป็นอย่างดี และแน่นอนการมาของ Alisson ผู้รักษาประตูระดับโลกและ Virgil van Dijk ผู้เล่นหัวใจสำคัญในแดนหลังก็สำคัญเช่นกัน
คล็อพก็ยังพัฒนาผู้เล่นที่อยู่ในสโมสรก่อนที่เขาจะมาถึงอย่าง Jordan Henderson กองกลาง – กัปตันของเขา – และ Alexander-Arnold ซึ่งก็ทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ
แฟนๆหงษ์แดงก็คงจะพอใจกับกุนซือชาวเยอรมันคนนี้แหละก็หวังว่าเค้าจะอยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน
องค์ประกอบและส่วนผสมที่ลงตัวดังที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้ลิเวอร์พูลในยุคนี้นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมากและสมควรแล้วกับการคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตามทีมยังคงต้องมีการพัฒนาต่อไปเช่นเดียวกับทีมอื่นๆ แฟนๆหงษ์แดงเรดแมชชีน และแฟนๆทีมอื่นก็ยังคงต้องติดตามทีมรักของตนเองกันต่อไปและหวังว่ามันจะเป็นไปอย่างที่หวังไว้
More Stories
เรอัลมาดริดแชมป์ลาลีกาสเปน2019/2020
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ชนะ 2 – 1 อาร์เซน่อล ศึกลอนดอนดาร์บี้
เหตุปะทะกันของฮูโก้ยอริสกับซอนเฮืองมินฮูแต่ที่สุดก็จบด้วยดี