May 8, 2024
การเลี้ยงกุ้งฝอย

การเลี้ยงกุ้งฝอย

วิธีการเลี้ยงกุ้งฝอยนั้นเป็นอาชีพที่ดีเพราะลงทุนน้อย ใช้พื้นที่น้อย เลี้ยงไม่ยาก และยังเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งปัจจุบันนิยมทำการเลี้ยงในบ่อซีเมนต์เพราะสะดวกในการควบคุมคุณภาพของกุ้งและทำง่าย

วิธีการเลี้ยงกุ้งฝอยในบ่อซีเมนต์

เริ่มจากทำบ่อระบายน้ำสำหรับถ่ายน้ำออก แล้วนำซีเมนต์ทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ถึง 1 เมตรครึ่ง วางทับท่อระบายน้ำจากนั้นเทปิดฐานด้วยปูนให้เหลือแค่รูท่อระบายน้ำ

ขั้นตอนต่อไปคือการเติมน้ำลงในบ่อ นำลำต้นกล้วยมาหักเป็นท่อนๆแล้วใส่ลงในบ่อทิ้งไว้ 7 วันวิธีนี้เป็นการดูดซับสารเคมีต่างๆที่ติดมาปูน ซึ่งจะช่วยให้กุ้งฝอยของเราปลอดภัยต่อสารเคมีมากขึ้นหลังจากแช่เสร็จแล้วก็ให้ระบายน้ำออกไป

นำกุ้งเพศเมียมาจำนวน 100 ตัวมาพักไปในกระชังเป็นเวลา 1 คืนเพื่อปรับสภาพของกุ้ง แม่กุ้ง 1 ตัวจะสามารถออกใข่ได้ 60 – 80 ฟองเราสามารถกะจำนวนกุ้งที่จะเลี้ยงได้โดยการประมาณคร่าวๆจากจำนวนของแม่กุ้ง

การคัดลูกกุ้งให้เลือกกุ้งที่มีไข่แก่ๆมองเห็นตาของลูกกุ้งได้ในตัว ทำการแยกออกมาฟักในตะแกรง ที่แขวนไว้กระชังผ้าขนาด 1x1x1 เมตร ในบ่อซีเมนต์

การให้อาหารนั้นจะแบ่งให้อาหาร 2 ครั้งคือเช้าและเย็น จำนวนที่ให้ในแต่ละครั้งคือประมาณ 5% วัดจากน้ำหนักตัวของกุ้ง

ไข่จะฝักออกมาเป็นตัวใช้เวลา 3 – 4 วัน หลังจากนั้นให้แยกแม่กุ้งออก แล้วคัดลูกกุ้งที่มีขนาดใกล้เคียงกัน และนำลูกกุ้งที่ได้ไปอนุบาลในกระชังผ้าในบ่อ 1x1x1 เมตร ต่อไป

อาทิตย์แรกให้อาหารด้วยไข่แดงต้มสุก จากนั้นอาทิตย์ที่ 2 – 4 ใช้ไรน้ำจืดขนาดเล็กให้เป็นอาหาร และจึงให้อาหารสำเร็จชนิดผง ให้อาหารแค่ละครั้งปริมาณ 10% ของน้ำหนักตัว

ระยะนี้ควรระมัดระวังตาข่ายไม่ให้มีการอุดตันต้องคอยทำความสะอาดไว้เสมอ ซึ่งช่วงอนุบาลนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงจะน้ำไปเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ได้

ก่อนนำกุ้งที่อนุบาลลงในบ่อ เทน้ำใส่ประมาณครึ่งเมตร แล้วใส่ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ดลงไปเล็กน้อย ทิ้งไว้ 3 – 4 วัน น้ำในบ่อจะค่อยๆเปลื่ยนสี สังเกตน้ำเมื่อเริ่มออกเป็นสีเขียวให้เติมน้ำใส่เพิ่มจนได้ระดับที่ 1 เมตร วางระบบออกซิเจนลงในบ่อ เพื่อให้กุ้งได้หายใจได้สะดวก จากนั้นจึงนำกุ้งที่อนุบาลลงในบ่อ

จำนวนกุ้งที่เลี้ยงในแต่ละบ่อไม่ควรเกิน 30,000 – 50,000 ตัวต่อบ่อ เลี้ยงประมาณ 3 – 4 เดือนก็สามารถที่จะนำไปขายได้โดยสูตรนี้มีอัตรารอดอยู่ที่ 70 – 80% เลยทีเดียว ซึ่งราคารับซื้อในท้องตลาดตอนนี้อยู่ที่ 200 – 400 บาทต่อกิโลกรัม ขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย